เปิดใจ “ลักษณาวัลย์ เหมอุปถัมภ์” CEO สาวแกร่งแห่งวงการโลจิสติกส์ สู่วงการแบรนด์แนมมือสองของไทย

เปิดใจ “ลักษณาวัลย์ เหมอุปถัมภ์” CEO สาวแกร่งแห่งวงการโลจิสติกส์ สู่วงการแบรนด์แนมมือสองของไทย

วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ CEO สาวคนเก่งในแวดวงธุรกิจโลจิสติกส์ ที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 20 ปี “คุณปุ้ย-ลักษณาวัลย์ เหมอุปถัมภ์” ที่นอกจากจะสานต่อความสำเร็จให้กับธุรกิจโลจิสติกส์อายุกว่า 40 ปีของครอบครัวแล้ว ยังเริ่มก่อร่างสร้างพิรามิดของตนเองกับธุรกิจจัดส่งสินค้าและคลังสินค้าปลอดอากร และธุรกิจที่สาวๆ หลายคนต้องอิจฉา นั่นคือกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง สองธุรกิจที่ดูเหมือนจะต่างกันคนละขั้วนี้มาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร ไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

“ปุ้ยเริ่มทำธุรกิจโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 2002 ช่วงที่ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น (Sun Yat Sen University) เมืองกวางโจว ประเทศจีน ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการบริษัทขนส่งของที่บ้านควบคู่กันไปด้วย หลังจากเรียนจบ ปุ้ยก็ทำงานอยู่ที่ประเทศจีนจนถึงปี 2018 จึงได้กลับประเทศไทยค่ะ”


– สืบสานต่อยอดโลจิสติกส์ธุรกิจของครอบครัว
“บริษัทโลจิสติกส์ของเราเป็นธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศแบบ Door to Door คือให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง บริษัท มันเดย์ อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต จำกัด หรือ Monday Oph Cargo มีสาขาครอบคลุมทั่วโลก ได้แก่ ประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และอเมริกา มีทั้ง Air Freight และ Sea Freight ทั้งแบบเต็มตู้ และ แบบ LCL เป็นบริษัทนำเข้าครบวงจร ที่รวมค่าเฟรท และดำเนินพิธีการศุลกากร ค่าขนส่งต่างๆ จนถึงมือลูกค้าในประเทศไทย”
หลังจากกลับเมืองไทยได้ 4 ปี เธอก็เริ่มต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ของตัวเอง คือ บริษัท เรเกนวาลด์เทรด จำกัด ให้บริการจัดส่งสินค้า และคลังสินค้า Free Zone คุณปุ้ยอธิบายเพิ่มเติมว่า “คลังสินค้า Free Zone คือเขตปลอดอากร ที่ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้ามากมาย เช่น สิทธิ์ประโยชน์ FZ , FE , BOI และการใช้สิทธิ์ประโยชน์มากมายภายใต้เขตปลอดอากรฟรีโซน”

คุณปุ้ยพูดถึงการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ในช่วงที่ผ่านมาว่า “เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ปีละประมาณกว่า 10 % และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยไม่ต้องเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจขนส่งซึ่งเป็นมดงานสำคัญ กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในธุรกิจนั้นค่ะ”


– คุณปุ้ยเริ่มสนใจกระเป๋าแบรนด์เนมตั้งแต่เมื่อไร
“ตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศค่ะ ตอนที่ไปเรียนอยู่ที่ประเทศจีน ปุ้ยได้เข้าไปช่วยธุรกิจของที่บ้าน ทำให้มีโอกาสเดินทางไปเมืองนอกบ่อยๆ เลยทำให้เราเข้าถึงสินค้าแบรนด์เนมได้ง่ายกว่าตอนอยู่ประเทศไทย แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย เลยทำให้เริ่มสนใจแบรนด์เนมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แบรนด์โปรดของปุ้ยคือ CHANEL ค่ะ คือปุ้ยจะเป็นคนละเอียดนิดหนึ่ง เวลาจะก้าวเท้าออกจากบ้าน กระเป๋าจะต้องแมทช์กับรองเท้าและเครื่องประดับ พอเป็น CHANEL ปุ๊บ มันเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีที่เราชอบ แล้วก็แมทช์กับอะไรก็ง่าย รุ่นโปรดเลยคือ BOY CHANEL ชอบตรงที่จะทำเป็นครอสบอดี้ก็ได้ จะสะพายข้างก็ได้ จะหิ้วก็ได้ แล้วมีสายโซ่ให้เราเลือก เช่น ดำรมควัน สีทอง และมีแอคเซสซอรีส์ให้เลือกเล่นเยอะค่ะ”


นอกจากความชื่นชอบและสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมแล้ว คุณปุ้ยยังสนุกกับการตามหารุ่นที่เป็นแรร์ไอเทม “เสน่ห์ของแบรนด์เนมมือสองคือการตามหากันจนเจอ เหมือนได้เจอเนื้อคู่” และมีความสุขมากขึ้นเมื่อแบรนด์เนมใบนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา จากความชอบตรงนี้เองที่นำมาสู่ธุรกิจแบรนด์เนมมือสองในที่สุด
“ตอนอยู่ต่างประเทศปุ้ยก็เริ่มรับพรีออเดอร์บ้างแล้ว เพื่อนสั่งซื้อบ้าง ครอบครัวสั่งซื้อบ้าง แล้วตัวเองก็ใช้บ้าง เลยทำให้ค่อยๆ ซึมซับมาเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มมีการซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน มีการเทรดกระเป๋า เลยทำให้เป็นอีกธุรกิจหนึ่งค่ะ ประกอบกับพอกลับมาเมืองไทย ปุ้ยก็ได้มาช่วยคุณแม่ดูเรื่องกระเป๋าแบรนด์เนมที่ประมูลมาจากกรมศุลกากร ทำให้ได้เข้ามาช่วยงานที่สมาคมสินค้าแบรนด์เนมมือสองแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการที่ปรึกษา ฝ่ายโลจิสติกส์ นำเข้า-ส่งออก ซื้อขายแลกเปลี่ยน ประมูลกระเป๋า และทำหลักสูตรดูของแท้ของปลอมให้กับสมาคมฯ ค่ะ”

 

จากความชื่นชอบและคลุกคลีอยู่กับกระเป๋าแบรนด์เนมมายาวนาน คุณปุ้ยจึงเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนับสนุนให้คนใช้ของปลอม  “ในชีวิตปุ้ยไม่เคยถือของปลอมเลยค่ะ เพราะความที่ปุ้ยชอบแบรนด์เนมตั้งแต่เด็ก ปุ้ยคิดว่าถ้าซื้อกระเป๋าหลุยส์หรือชาเนล ราคา 3,000 บาท ปุ้ยเอาเงินสามพันนี้ไปซื้อยี่ห้ออะไรก็ได้ที่เป็นของจริงๆ ดีกว่าค่ะ”

ด้วยเหตุนี้เมื่อเธอเริ่มเข้ามาทำธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนม และช่วยงานที่สมาคมสินค้าแบรนด์เนมมือสองแห่งประเทศไทย เธอจึงมีความคิดว่าอยากถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องแบรนด์เนม ให้กับคนที่ชื่นชอบแบรนด์เนมรวมถึงคนที่สนใจทำธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมมือสอง โดยจัดทำหลักสูตรดูกระเป๋าแบรนด์เนมขึ้นมา และเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์เนมมาเป็นวิทยากร   “หลักสูตรนี้เริ่มจากความชอบส่วนตัวค่ะ แล้วก็เลยอยากให้ทุกคนรู้ในเรื่องของกระเป๋าแท้-ปลอม รุ่นไหนควรเก็บ รุ่นไหนไม่ควรเก็บ อย่าง CHANEL ปีที่ผ่านมา ราคาขึ้นเฉลี่ย 30% แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นนะคะ ต้องดูรุ่น ดูซีรีส์ด้วย หลักสูตรนี้จะสอนวิธีดูกระเป๋าแบรนด์เนม 5 แบรนด์หลัก คือ HERMES, CHANEL, GUCCI, LOUIS VUITTON, PRADA และแบรนด์ที่ 6 ให้ผู้เรียนโหวตกันว่าอยากได้แบรนด์ไหน”


หลักสูตร Real BrandName Academy นอกจากจะสอนวิธีการดูกระเป๋าของแท้ ของปลอมแล้ว ยังให้ความรู้ในเรื่องลงทุน สำหรับคนที่สนใจทำธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง รวมทั้งวิธีการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม รุ่นไหนควรเก็บ และเก็บอย่างไรให้ราคาขึ้น ขายยังไงไม่ให้ราคาตก ผู้เข้าอบรมจะได้ประกาศนียบัตรจากสมาคมแบรนด์เนมมือสองแห่งประเทศไทย, หนังสือคู่มือการเรียน และได้เข้าเป็นสมาชิกกรุ๊ปไลน์ Line  AO : RealAcademy สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ อัพเดทข้อมูลข่าวสารในวงการแบรนด์เนม รวมทั้งปรึกษาปัญหากับผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้ความรู้และตอบคำถามในกลุ่มไลน์ พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์อีกมากมายจากสมาคมฯ

-หลักสูตร Real BrandName Academy รุ่นที่ 1 เริ่มเรียนวันที่ 27-28 มกราคม 2565 จัดที่ ฺฺBanyan Tree Bangkok Sathorn

-ค่าสมัคร 29,999 บาท รวมอาหาร เครื่องดื่ม และปาร์ตี้วันฉลองจบหลักสูตร รับจำนวนจำกัด 30 ท่าน

สนใจสำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : Real BrandName Academy

https://www.facebook.com/Real-BrandName-Academy-108587321710681/

ทิศทางธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองในประเทศไทยในปี 2565 จะเป็นอย่างไร
“คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ เนื่องจากสินค้าแบรนด์เนมแต่ละยี่ห้อ ก็ต้องการสร้างตลาดที่มีความลักชัวรี่มากขึ้น ด้วยข้อจำกัดมากมาย ทำให้สินค้าหายาก บางรุ่นก็เลิกผลิตแล้ว หาซื้อไม่ได้ ล่าสุด แบรนด์ Chanel ก็พัฒนาโดยการผลิตสินค้ารุ่นใหม่มาเป็นบาร์โค้ดแบบฝังไมโครชิพแล้ว ทำให้เกิด value และการเติบโตอย่างช้าๆ แต่มั่นคงในตลาดมือสองบ้านเราในอนาคต ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองจะต้องยิ่งใหญ่กว่าญี่ปุ่นอย่างแน่นอน”


คุณปุ้ยทิ้งท้ายสำหรับคนที่ชื่นชอบแบรนด์เนมมือสองว่า  “ใครก็ซื้อของแบรนด์เนมได้ค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญต้องรู้ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมใบนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งหลักการง่ายๆ คือซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ หรือมีสมาคมรับรอง และหาคำตอบได้ในหลักสูตร Real Brandname Academy ค่ะ”