คอหนังห้ามพลาด!! “BKKIFF 2025” ชวนดื่มด่ำผลงานภาพยนตร์ไทยและนานาชาติ ตลอดช่วงวันหยุดยาว 11–15 ตุลาคมนี้ พร้อมพูดคุยใกล้ชิดในกิจกรรม Q&A สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568” (Bangkok International Film Festival 2025) ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ THACCA (Thailand Creative Culture Agency) ที่ยังคงอัดแน่นด้วยภาพยนตร์คุณภาพจากทั้งไทยและนานาชาติให้คอหนังได้ดื่มด่ำอย่างจุใจ โดย คุณดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 เชิญชวนคนรักภาพยนตร์มาร่วมใช้ช่วงสัปดาห์วันหยุดยาวระหว่างวันที่ 11–15 ตุลาคม 2568 เพื่อสัมผัสประสบการณ์ชมภาพยนตร์นานาชาติสาย Main Competition รวมถึงโปรแกรม Retrospective ที่นำเสนอภาพยนตร์ไทยอันทรงคุณค่าจากผลงานของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับระดับตำนานแห่งวงการภาพยนตร์ไทย ซึ่งจัดฉายในโรงภาพยนตร์ชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ พร้อมกิจกรรมพิเศษ Q&A หลังรอบฉาย ให้ผู้ชมได้พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้กำกับระดับโลกและนักแสดงชื่อดังระดับตำนานอย่างใกล้ชิด
เปิดประสบการณ์ระดับโลกกับภาพยนตร์สาย Main Competition
เริ่มต้นด้วย “This City Is a Battlefield” ภาพยนตร์ดราม่าสงครามจากอินโดนีเซีย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมุมมองของผู้กำกับ Mouly Surya อย่างลึกซึ้ง สมจริง และทรงพลัง พาผู้ชมย้อนกลับไปยังกรุงจาการ์ตาในปี 1946 หนึ่งปีหลังการประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย แต่ยังคงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวดัตช์และอังกฤษ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการผสานอารมณ์เข้มข้นของดราม่า โรแมนติก และการเมืองได้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ถ่ายทอดทั้งความขัดแย้งภายนอกและความปั่นป่วนภายในจิตใจของผู้คนท่ามกลางไฟสงคราม
• รอบฉายวันที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ (กิจกรรม Q&A กับผู้กำกับหลังรอบฉาย)
• รอบฉายวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 15.25 น. ที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ สามย่าน (กิจกรรม Q&A กับผู้กำกับหลังรอบฉาย)
ภาพยนตร์เรื่อง “Sound of Falling” ผลงานจากผู้กำกับชาวเยอรมัน Mascha Schilinski เจ้าของรางวัล Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2025 กับภาพยนตร์ดราม่ามหากาพย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงสี่รุ่น Alma, Erika, Angelika และ Lenka ที่อาศัยอยู่ในบ้านชนบททางตอนเหนือของเยอรมนีตลอดระยะเวลาเกือบศตวรรษ ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจนถึงยุคปัจจุบัน
• รอบฉายวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 19.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
ภาพยนตร์เรื่อง “Strange River” ผลงานกำกับโดย Jaume Claret Muxart ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการเติบโตและการตื่นรู้ทางเพศของเยาวชน LGBTQ+ ผ่านสายตาของ Dídac เด็กหนุ่มวัย 16 ปีที่เดินทางไปตามแม่น้ำดานูบกับครอบครัวในฤดูร้อนอันแสนสงบ จนกระทั่งได้พบกับเด็กหนุ่มลึกลับกลางสายน้ำ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ปลุกเร้าความรู้สึกและความปรารถนาอันลึกล้ำในใจของเขา พร้อมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของเขาและครอบครัว
• รอบฉายวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 18.20 น. ที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ สามย่าน
ภาพยนตร์เรื่อง “Lost Land” ผลงานกำกับโดย Akio Fujimoto ที่ถ่ายทอดการเดินทางสุดอันตรายของสองพี่น้องชาวโรฮิงญา Somira วัย 9 ขวบ และ Shafi วัย 4 ขวบ ที่หนีออกจากค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ เพื่อตามหาครอบครัวที่พลัดพรากและมุ่งหน้าไปยังประเทศมาเลเซีย ด้วยความหวังอันริบหรี่ที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คือการเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกที่ใช้ภาษาโรฮิงญาในการถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมด ทำให้กลายเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า
• รอบฉายวันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 18.20 น. ที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ สามย่าน (กิจกรรม Q&A กับผู้กำกับหลังรอบฉาย)
• รอบฉายวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 20.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ (กิจกรรม Q&A กับผู้กำกับหลังรอบฉาย)
ภาพยนตร์เรื่อง “The President’s Cake” ผลงานเปิดตัวของผู้กำกับชาวอิรัก Hasan Hadi ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัล Caméra d’Or และ Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2025 พร้อมขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์อิรักเรื่องแรกที่ได้ฉายในคานส์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของ Lamia เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ผู้ถูกเลือกให้ทำเค้กวันเกิดถวายประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอาหารและยาช่วงทศวรรษ 1990 การออกเดินทางตามหาส่วนผสมธรรมดาอย่างไข่ น้ำตาล และแป้ง จึงกลายเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายและความหวังอันริบหรี่ ภาพยนตร์เปี่ยมอารมณ์นี้ถูกยกย่องให้เป็น “เทพนิยายโศกนาฏกรรม” ที่สะท้อนความงามท่ามกลางความสิ้นหวัง และแสดงให้เห็นพลังแห่งความรักและมิตรภาพของเด็กๆ ท่ามกลางสงครามและการกดขี่ได้อย่างลึกซึ้งและกินใจ
• รอบฉายวันที่ 13 ตุลาคม 2568 เวลา 15.10 น. ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
• รอบฉายวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 20.45 น. ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ (กิจกรรม Q&A กับผู้กำกับหลังรอบฉาย)
ภาพยนตร์เรื่อง “Agon” ผลงานโดยผู้กำกับ Giulio Bertelli ภาพยนตร์แนว Techno-Realist สุดล้ำ ที่พาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกของนักกีฬาหญิงสามคนจากกีฬายิงปืน ฟันดาบ และยูโด ขณะเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกสมมติ “Ludoj 2024” ผ่านการเล่าเรื่องที่ผสานระหว่างดราม่า สารคดี และภาพการถ่ายทอดสดกีฬาอย่างเหนือจริง โดยภาพยนตร์ถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นถึงแรงกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจในระดับสูงสุดของวงการกีฬา พร้อมสะท้อนบริบททางสังคม การเมือง และเทคโนโลยีที่เข้ามาหล่อหลอมและควบคุมชีวิตของพวกเธออย่างแนบเนียน
• รอบฉายวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 15.50 น. ที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ สามย่าน
สดุดีตำนานผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ไทยระดับประวัติศาสตร์
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 คือ โปรแกรมภาพยนตร์ Retrospective หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน), พร้อมมิตรโปรดักชั่น, สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น เพื่อยกย่องผลงานอันทรงคุณค่าของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับระดับตำนานแห่งวงการภาพยนตร์ไทย โดยคัดสรรภาพยนตร์หาชมได้ยากหลายเรื่องกลับมาฉายอีกครั้งในรูปแบบไฟล์ดิจิทัลที่ผ่านการบูรณะใหม่ให้มีความคมชัดสมบูรณ์ ให้คนรักหนังได้สัมผัสเสน่ห์และพลังทางศิลปะของผลงานที่ทรงอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย พร้อมกิจกรรมพูดคุยหลังการฉายกับนักแสดงจากแต่ละเรื่อง เพื่อร่วมย้อนรำลึกถึงคุณค่าของภาพยนตร์คลาสสิกในยุคทองของไทย
• มือปืน (2526) – เรื่องราวของ จ่าสมหมาย ช่างตัดผมผู้พิการที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่เบื้องหลังกลับมีอีกหนึ่งตัวตนในฐานะ “มือปืนรับจ้าง” เพื่อหาเลี้ยงตนเองและลูกชาย วันหนึ่งเขาต้องเผชิญหน้ากับสารวัตรธเนศ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทรงอิทธิพล ฉายา “มือดำ” ผู้ปราบอาชญากรรมอย่างไร้ปรานี การปะทะกันของทั้งคู่ได้นำไปสู่การเปิดเผยความลับอันดำมืดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เข้าฉายในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท พร้อมกิจกรรม Q&A ท้ายรอบกับคุณรณ ฤทธิชัย และคุณชาลิตา ปัทมพันธุ์
• ถ้าเธอยังมีรัก (2524) – เรื่องราวของ จืด หนุ่มผู้ผิดหวังในรัก นุช หญิงสาวที่ถูกลวงมาขายบริการ และ เริง ชายพเนจรที่เพิ่งออกจากคุกและหวังกลับไปหาคนรักที่ภูเก็ต ทั้งสามคนพบกันโดยบังเอิญและตัดสินใจออกเดินทางร่วมกัน เข้าฉายในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลา 16.15 น. ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท พร้อมกิจกรรม Q&A ท้ายรอบกับคุณปัญญา นิรันดร์กุล และคุณเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
ปิดม่านอย่างยิ่งใหญ่กับ “KOKUHO” ภาพยนตร์ญี่ปุ่นแห่งปีที่ห้ามพลาด
ปิดฉากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 (BKKIFF 2025) อย่างงดงามด้วยภาพยนตร์เรื่อง “KOKUHO” ผลงานจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทรงคุณค่าที่สุดในรอบหลายปี โดยกำกับโดย Lee Sang-il ผู้กำกับเชื้อสายเกาหลีที่ตีแผ่โลกเบื้องหลังของศิลปะการแสดง คาบูกิ ถ่ายทอดจิตวิญญาณของศิลปินชั้นครูและสะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในแง่เสียงชื่นชมและรายได้ ทำเงินกว่า 10,000 ล้านเยน (ราว 2,150 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์คนแสดงจริงที่ทำรายได้สูงสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยจะจัดฉายในพิธีปิดเทศกาลวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับผู้สนใจชมภาพยนตร์ใน “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร ปี 2568” (BKKIFF 2025) สามารถซื้อบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้าได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือจุดจำหน่ายของโรงภาพยนตร์ที่เข้าร่วม พร้อมติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bkkiff.co หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook: https://www.facebook.com/bkkiffofficial ,Instagram: https://www.instagram.com/bkkiffofficial