“ยูเนี่ยนแพน” มั่นใจตลาดท่องเที่ยว-ธุรกิจ จ.เชียงใหม่ฟื้นตัว เตรียมจัดงาน“One Stop Shopping Expo @Chiangmai” ครั้งที่ 7 กระตุ้นกำลังซื้อ

“ยูเนี่ยนแพน” มั่นใจตลาดท่องเที่ยว-ธุรกิจ จ.เชียงใหม่ฟื้นตัว
เตรียมจัดงาน“One Stop Shopping Expo @Chiangmai” ครั้งที่ 7 กระตุ้นกำลังซื้อ

ยูเนี่ยนแพนฯ มั่นใจภาพรวมตลาดท่องเที่ยว-ธุรกิจในเชียงใหม่เริ่มฟื้นตัว ล่าสุดเตรียมจัดงาน “One Stop Shopping Expo @Chiangmai” ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 5-13 มี.ค. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ จ.เชียงใหม่ ประกอบไปด้วย 5 งานหลัก บนพื้นที่ประมาณ 18,000 ตารางเมตร พร้อมโปรโมชั่นเร้าใจเพียบ ระบุทุกอย่างเป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข คาดมีผู้เข้าชมงานประมาณ 2,000 คน/รอบๆละ 2 ชั่วโมง และมีเม็ดเงิoสะพัดเกิน 300 ล้านบาท

นางวชิรา จิตศักดานนท์, กรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยนแพน เอ๊กซิบิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีสูงขึ้นมากกว่าช่วงไตรมาส 1/2564 โดยเป็นกลุ่มผู้ป่วยระดับสีเขียวมากขึ้น ถือว่าเป็นแรงกระทบในระยะสุดท้ายของการระบาด ซึ่งเป็นช่วงขาลงของการระบาด ส่วนที่ จ.เชียงใหม่นั้น ผู้ประกอบการ และประชาชนก็มีการปรับตัวรับมือ มีการใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติมากขึ้น ตื่นตระหนก หวาดกลัวน้อยลง และมีการรับมือกับการแพร่ระบาดมากขึ้น ในด้านการท่องเที่ยว บริการ และภาคธุรกิจต่างๆ จะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2-3

เป็นต้นไป และในช่วงไตรมาส 4 จะฟื้นตัวเต็มที่ และจะสามารถสร้างอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นเท่าตัว

ทั้งนี้ เชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดใหญ่ในภาคเหนือ และบริษัทฯ ได้เคยจัดงาน “One Stop Shopping Expo @Chiangmai” เพื่อกระตุ้นตลาดเชียงใหม่ มาแล้วตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และได้หยุดการจัดงานไป 1 ปีคือเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และคิดว่าผู้บริโภคต่างรอคอยการจัดงานดังกล่าว ล่าสุดได้เตรียมจัดงาน “One Stop Shopping Expo @ Chiangmai” ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 มีนาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ จ.เชียงใหม่ โดยใช้พื้นที่ประมาณ 18,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 5 งานหลัก ได้แก่

1. งาน Furniture Expo @Chiangmai เป็นการรวมผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจจากกทม.สัดส่วน 85% และ 15% เป็นผู้ประกอบการในภาคเหนือ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ผู้ประกอบการ โซนที่รวบรวมผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ สินค้าตกแต่งบ้านทุกโซนในบ้านมาไว้ที่เดียว อาทิ เฟอร์นิเจอร์ชุดรับแขก, ชุดห้องนอน, ชุดรับประทานอาหาร, ชุดครัว สินค้าชิ้นเล็กสำหรับตกแต่งภายในบ้าน มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือกช้อปอย่างจุใจ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสุดคุ้มที่ผู้ประกอบการได้นำมาจัด ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ


2. งาน Power Buy Fair ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่จาก บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ซึ่งนำสินค้าประมาณ 13 แบรนด์ชั้นนำได้แก่ LG, SAMSUNG, HITACHI, SONY, MITSUBISHI, PANASONIC, ELECTROLUX, HISENSE, HAIER, TCL, DAKIN, ACONATIC, STEBEL CLEARANCE มาร่วมจัดงาน นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นผ่อน 0%, มอบบัตรของขวัญ มูลค่าสูงสุด 22,500 บาท, เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาจัดมอบลดสูงสุด 55% ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลดปรอทแตก แจกทุกวัน” และพิเศษสุดเป็นครั้งแรกที่นำโซนคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มือถือ ไปเปิดตลาดครั้งแรกในโซนดังกล่าวด้วย


3. งาน Fashion Jewelry & Beauty Expo @Chiangmai เป็นการรวมผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น เครื่องหนัง เครื่องประดับ โดยเปิดเป็น 2 โซน ได้แก่ มหกรรมผ้าไหม และมหกรรมสปา เพื่อกระตุ้นผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น

4. งาน Chiangmai Motor Show 2022 เป็นการรวมค่ายรถยนต์ 11 ค่ายดัง ภายใต้
คอนเซ็ปต์ “มหกรรมรวมรถยนต์และรถจักรยานยนต์มากที่สุด” อาทิ โตโยต้า, ฮอนด้า,
นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ฟอร์ด, อีซูซุ, เอ็มจี และซูบารุ โดยเน้นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จากทุกค่ายในราคาพิเศษ บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร และจักรยานยนต์จากค่าย ยามาฮ่า

5. งานมหกรรมตลาดอาหาร ย้อนวันวาน @ เชียงใหม่ จัดภายใต้คอนเซ็ปต์ New Normal เน้นการซื้ออาหารกลับบ้านเพื่อเป็นของฝาก เน้นผู้ประกอบการที่ทำตามกฎ New Normal เช่น งดใช้เงินสด, รับประทานอาหารอยู่ในมุมที่กำหนด และจำกัดปริมาณคนให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด (กำหนด 4 ตารางเมตร/คน)

“ผู้ประกอบการที่รวมออกบู๊ธในงานทุกราย จะต้องมีผลตรวจ ATK ทุกๆ 3 วัน ส่วนผู้เช้าชมงานต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จึงจะสามารถเข้าชมงานได้ นอกจากนี้ภายในงานยังดำเนินการต่างๆ ภายใต้มาตรการตามระบบสาธารณสุขทุกกระบวนการ และสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าในงานครบ 5,000-200,000 บาท สามารถมารับสินค้าพรีเมี่ยม มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท วันละ 80 ชิ้น คาดว่าภายในงานจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 2,000 คน/รอบๆละ 2 ชั่วโมง และมีเม็ดเงินสะพัดเกิน 300 ล้านบาท” นางวชิรา กล่าวทิ้งท้าย

* * * * * * * * * *